แถลงผลปฏิบัติการ “รุกฆาตนักขนคน” EP.2

ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และตามนโยบายบริหารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มุ่งเน้นการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยได้มีหนังสือสั่งการเน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้ 7 มาตรการ อย่างเข้มงวด ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ได้แก่
1. มาตรการก่อนคนต่างด้าวเดินทาง เข้าประเทศไทย : ประสาน เชื่อมโยงข้อมูล เพื่อทำการคัดกรองบุคคล
2. มาตรการ ณ ท่าอากาศยาน และ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ชายแดน) : เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลเข้า – ออก ราชอาณาจักร โฟกัส กลุ่มเสี่ยง หากพบเห็นให้รีบดำเนินการซักถาม และประชาสัมพันธ์ มาตรการติดตั้งกล้อง License Plate และเชื่อมโยงกล้องวงจรปิด (ระบบ AI) ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ (แจ้งเตือน)
3. มาตรการตั้งจุดตรวจตามเส้นทาง : ตั้งจุดตรวจครอบคลุม โดยเฉพาะพื้นที่เฝ้าระวัง สุ่มเสี่ยง
4. มาตรการตรวจสอบที่พัก พื้นที่ท่องเที่ยว และสกัดกั้นพื้นที่ชายแดน : ตรวจสอบที่พักคนต่างด้าว แหล่งท่องเที่ยว เน้นการสกัดเคลื่อนย้ายข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามแดนต่าง ๆ
5. มาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเส้นทางและจุดพักคอย : ตรวจสอบปั๊มน้ำมัน จุดพักรถ สถานีขนส่ง จุดพักแรม
6. มาตรการเข้มข้นในพื้นที่ชายแดน : ตรวจสอบพื้นที่และเอกซเรย์พื้นที่ชายแดนทุกแห่ง ลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติ และท่าข้าม พื้นที่จังหวัดชายแดนเข้มข้น
7. มาตรการประสานงาน ให้ความช่วยเหลือ และสืบสวนขยายผล : ดำเนินคดี สืบสวนขยายผลไปถึงตัวการ ผู้สนับสนุน โดยเฉพาะข้าราชการที่ทุจริต โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2568 เป็นต้นมา
โดยทำการปิดล้อมตรวจค้นทั่วประเทศ จำนวน 60 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 27 หมายจับ ผู้ต้องหา จำนวน 25 คน เสียชีวิต จำนวน 1 คน 1 หมายจับ คงเหลือผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีกจำนวน 6 คน 6 หมายจับ พบความเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย จำนวน 5 ขบวนการใหญ่ รายละเอียด ดังนี้
1. ขบวนการลักลอบขนชาวเมียนมา พื้นที่ จว.ตาก เป็นกลุ่มเครือข่ายที่รับงานลักลอบขนชาวเมียนมาจากทางพื้นที่ จว.ตาก ลงมาพื้นที่ชั้นใน กทม. และปริมณฑล และบางส่วนขนชาวเมียนมาต่อไปทางภาคใต้ ปลายทางประเทศมาเลเซีย โดยพบความเชื่อมโยงจำนวน 5 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายนายไพทูลย์ฯ จว.สุราษฎร์ธานี, เครือข่ายนายกามารูดิง จว.สงขลา, เครือข่ายบังกอล์ฟ จว.ชุมพร, เครือข่ายนายธงทองฯ จว.ปทุมธานี และเครือข่ายหมอโพชิ จว.ลพบุรี และมีการจับกุมผู้ต้องหารวม 56 คน, ออกหมายจับ 33 หมายจับ, คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 260 คน และตรวจยึดยานพาหนะ 15 รายการ
2. ขบวนการลักลอบขนชาวจีน พื้นที่ จว.ตาก เป็นกลุ่มลักลอบขนชาวจีนหลบหนีเข้าเมืองจากฝั่งประเทศเมียนมาเข้าประเทศไทยด้าน จว.ตาก แล้วพาเข้ามาสู่พื้นที่ กทม. และปริมณฑล หรือเดินทางต่อไปยังชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา หรือลาว กลุ่มเครือข่ายที่เคลื่อนไหวในช่วงนี้ คือเครือข่ายนายสุทิวัสฯ ซึ่งถูกออกหมายจับเนื่องจากเป็นผู้ว่าจ้างรถขนชาวจีน และขณะถูกจับกุมพบเป็นผู้ขับรถขนชาวจีนหลบหนี เข้าเมือง จำนวน 2 คน เหตุเกิดในพื้นที่ จว.พระนครศรีอยุธยา โดยมีความเชื่อมโยงเครือข่ายนายวงศกรฯ นายหน้าแนวชายแดนคนสำคัญ ซึ่งเป็นเครือข่ายลักลอบขนชาวจีนโซนภาคเหนือ เชียงราย, น่าน, ตาก มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารมากกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งได้จับกุมไปแล้วในปฏิบัติการรุกฆาตนักขนคน ครั้งที่ 1
3. ขบวนการลักลอบขนชาวเมียนมา พื้นที่ จว.กาญจนบุรี เป็นกลุ่มลักลอบขนชาวเมียนมาทางพื้นที่ จว.กาญจนบุรี เพื่อส่งต่อให้กลุ่มขนต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้ และข้ามไปประเทศมาเลเซีย รวมถึงบางส่วนลักลอบขน เข้ามาพื้นที่ชั้นใน เช่น กทม .และปริมณฑล, จว.สมุทรสาคร, จว.ราชบุรี โดยมักใช้ยานพาหนะขนาดใหญ่ประเภทรถบรรทุก รถพ่วง ซึ่งจะลักลอบขนได้ครั้งละจำนวนมาก และไม่เป็นเป้าเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งยังใช้รถประจำทางเป็นพาหนะในลักลอบขนชาวเมียนมาด้วย โดยมีคนขับรถประจำทางร่วมขบวนการด้วย อีกทั้งพบข้อมูลและพิสูจน์ทราบผู้ทำหน้าที่นายหน้าแนวชายแดนทั้งไทย-เมียนมา และ ไทย-มาเลเซีย รวมไปถึงผู้ประสานงาน ผู้ว่าจ้างรถขน ผู้ดูแลจุดพักคอย ทั้งนี้ขบวนการนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 43 คน, ออกหมายจับ 24 หมายจับ, คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 443 คน และตรวจยึดยานพาหนะได้ 14 รายการ
4. ขบวนการลักลอบขนชาวเมียนมา พื้นที่ จว.เชียงราย เป็นกลุ่มเครือข่ายลักลอบขนชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง ที่มีพื้นที่เคลื่อนไหวอยู่ในภาคเหนือ จว.เชียงราย, จว.เชียงใหม่ ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบขนชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง จากพื้นที่ภาคเหนือมายังพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ปัจจุบันพบเครือข่ายที่เคลื่อนไหวอยู่ คือ เครือข่ายนายแก้วฯ จว.เชียงใหม่ ซึ่งพบพัวพันคดีตั้งแต่ปี 2567 ถึงปัจจุบัน ในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ จำนวน 3 คดี โดยมีการจับกุมผู้ต้องหารวม 7 คน, ออกหมายจับ 5 หมายจับ, คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 31 คน และตรวจยึดยานพาหนะได้ 3 รายการ
5. ขบวนการลักลอบขนชาวบังกลาเทศ พื้นที่ จว.สระแก้ว เป็นกลุ่มเครือข่ายช่วยเหลือชาวบังกลาเทศหลบหนีเข้าประเทศไทยด้านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชาวบังกลาเทศมีเป้าหมายลักลอบเพื่อข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน โดยจะมีรถขนชาวบังกลาเทศจากพื้นที่ จว.สระแก้ว เข้ามายัง กทม. ที่เป็นจุดพักคอย และจะมีรถขนรับช่วงขนชาวบังกลาเทศต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้ จนกระทั่งถึงชายแดนไทย-มาเลเซีย ในพื้นที่ จว.นราธิวาส ปัจจุบันพบเครือข่ายที่ยังคงเคลื่อนไหวคือ เครือข่ายเฮียไก่ อรัญประเทศ พบมีประวัติเกี่ยวข้องกับการจับกุมถึง 5 คดี ทั้งการจับกุมในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา, การจับกุมจากจุดพักคอยในพื้นที่ กทม. และการจับกุมในพื้นที่ภาคใต้ รวมมีการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 14 คน, ออกหมายจับ 5 หมายจับ, คนต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง 56 คน และตรวจยึดยานพาหนะ 11 รายการ